เภสัชกร ณรงค์ศักดิ์ สืบสาย นักเรียนทุนในโครงการกองทุน"ต้นกล้าสงขลานครินทร์" รุ่นที่ ๒ พ.ศ.๒๕๔๙ เขียนจดหมาย และให้สัมภาษณ์คณะทำงานโครงการฯ บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของตน ทั้งเมื่อครั้งสมัครเป็นผู้ขอรับทุนต้นกล้าสงขลานครินทร์และหลังจบการรับทุนฯ สรุปความได้ดังนี้ :

เรียนระดับมัธยมต้น(ม.๑-๓)ที่โรงเรียนไทยรัฐวิทยา ๗๗(บ้านเนินสันติ) อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร อาศัยอยู่ในเพิงเล็กๆกับมารดาม่ายและน้องเล็กๆอีก ๒ คน กับคุณตา แม่มีรายได้จากงานรับจ้างรายวันทั่วไปและรับจ้างปลูกผักเล็กๆน้อยขายตามฤดูกาล ที่บ้านไม่มีไฟฟ้าใช้ ช่วงเรียนมัธยมต้น แม่ทำข้าวเหนียวหมูปิ้งให้ไปขายที่โรงเรียนเพื่อเพิ่มรายได้ เรียนได้คะแนนเฉลี่ย ๔.๐๐ ตลอด เมื่อได้รับสนับสนุนทุน"ต้นกล้าสงขลานครินทร์"จึงได้รับคำแนะนำให้สอบเข้าเรียนต่อระดับมัธยมปลายที่โรงเรียนศรียาภัย ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดชุมพร ใช้เงินที่ได้รับจากทุนฯโดยไม่รบกวนเงินแม่อีก เรียนจบชันมัธยมศึกษาตอนปลายด้วยคะแนนเฉลี่ย- ๓.๗๑ สามารถสอบเข้าเรียนต่อที่คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้ดังหวัง สำเร็จการศึกษาเป็น"เภสัชศาสตร์-บัณฑิต"ด้วยคะแนนเฉลี่ย ๓.๑๗ ในปีการศึกษา ๒๕๕๖ ปัจจุบันดำรงชีพเป็นเภสัชกรที่จังหวัดกระบี่ มีภาระดูแลมารดากับคุณตาพร้อมทั้งเป็นคนส่งเสียค่าใช้จ่ายในการเรียนแก่น้องทั้ง ๒ คน

นี่คือภาพ"ผลผลิต"ของโครงการทุนต้นกล้าสงขลานครินทร์คนหนึ่ง เด็กขาดโอกาสที่ได้รับการดูแลโอบอุ้มทั้งทุนทรัพย์เพื่อการศึกษา ทุนทางความรู้คิดจากการร่วมปรึกษาและวางแผน ทุนด้านกำลังใจจากเจ้าหน้าที่ๆเป็นพี่เลี้ยงและเพื่อนอย่างใกล้ชิดตลอดระยะเวลา ๘ ปีแห่งการเป็น"ต้นกล้าสงขลานครินทร์" จากปีพ.ศ.๒๕๔๙ จนบรรลุความสำเร็จในปี ๒๕๕๖

เภสัชกร ณรงค์ศักดิ์ สืบสาย สะท้อนเสียงให้ผู้เกี่ยวข้องและสังคมไทยได้ยินตอนหนึ่งว่า

"...จากที่เคยรู้สึกว่าการเรียนในระดับปริญญาเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ จากที่ไม่เคยมีแนวคิดเรื่องการศึกษา มาวันนี้ผมได้รับโอกาส ได้รู้ว่าการศึกษาสำคัญต่อตนและประเทศชาติอย่างไร

อยากขอบคุณน้ำใจของผู้อุปถัมภ์ทุนที่ทำให้ผมมีวันนี้ สิ่งที่ผมจะตอบแทนได้...เดินไปให้ถึงเป้าหมายของชีวิต นำความรู้ความสามารถที่ได้จากการศึกษาเล่าเรียนมาประกอบอาชีพเพื่อตอบแทนสังคม ด้วยการเป็นเภสัชกรที่ดี มีจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนโครงการทุนต้นกล้าสงขลานครินทร์อย่างเต็มความสามารถ"

เมล็ดต้นกล้าฯเมล็ดหนึ่งได้เติบโตขึ้นแล้ว นับวันจะยิ่งแข็งแกร่งเติบงามให้ร่มเงาและสร้างประโยชน์ทั้งต่อตนเองและผู้อื่นดังเจตนาเบื้องต้นแห่งพระนาม"สงขลานครินทร์"