ความใฝ่ฝันและความรู้สึกจากใจนักเรียนทุนต้นกล้าฯ
...ความใฝ่ฝันและความรู้สึกจากใจนักเรียนทุนฯ..
ชีวิตในมหาลัยดำเนินผ่านมามีทั้งทุกข์มีทั้งสุข เรื่องการเรียนดิฉันกตั้งใจเรียนและอ่านหนังสือสอบอย่างเต็มที่ ดิฉันอยากทำงานเก็บเงินสร้างบ้านให้พ่อและแม่อยู่อาศัย ดูแลพ่อแม่ได้ กราบขอบพระคุณ คุณหญิง ชดช้อย โสภณพนิช เป็นอย่างสูง ที่ให้โอกาสทางการศึกษาแก่ดิฉัน ทำให้ครอบครัวดิฉันและตัวดิฉันมีความหวัง ชีวิตดิฉันหากไม่ได้ทุนนี้คงไม่มีโอกาสยืนอยู่ ณ จุดจุดนี้ ท่านเป็นดั่งนางฟ้าที่มาสร้างทุกสิ่งทุกอย่างให้กับดิฉันและครอบครัว ดิฉันไม่มีสิ่งใดตอบแทน มีเพียงคำขอบคุณที่จริงใจ และเปี่ยมด้วยความรักที่มีต่อท่าน ดิฉันรักท่านท่านเปรียบเสมือนแม่ของดิฉันคนหนึ่ง ซึ่งเป็นแม่ที่สร้างชีวิตให้กับดิฉัน ขอขอบคุณค่ะ
หนูชอบบรรยากาศในห้องเรียนมากเลยค่ะเพราะหนูเข้าใจกับเรื่องที่ครูสอนและอีกอย่างก็มีเพื่อนในกลุ่มคอยช่วยสอน คอยช่วยติว จนหนูเข้าใจและทำข้อสอบได้ หนูชอบไปโรงเรียนมาก มันทำให้หนูรู้จักการปรับตัวที่จะต้องใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่น จบมาแล้วจะได้เลี้ยงดูครอบครัวได้ หนูอยากทดแทนบุญคุณพ่อแม่ที่ท่านเลี้ยงหนูมาจนโต ทุนนี้ให้พวกหนูได้มีโอกาสศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา เหลือแต่ตัวหนูที่ต้องขยัน อดทน พยายามทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด
อนาคตหนูฝันอยากเป็นครูเพราะหนูอยากสอน อยากถ่ายทอดความรู้ให้ลูกศิษย์เป็นคนเก่ง เป็นคนดี ฉลาด สามารถนำความรู้ไปพัฒนาประเทศให้เจริญ การเป็นครูยังเป็นการสร้างความดีให้กับตัวเองอีกทางหนึ่งด้วย หนูจะพยายามตั้งใจเรียนให้มากยิ่งขึ้น และจะต้องเป็นครูที่มีคุณภาพ มีคุณสมบัติพร้อมจะเป็นครูที่ดีในอนาคต ท่านให้โอกาสให้ความเมตตาแก่เด็กน้อยคนหนึ่งได้มีชีวิตและมีโอกาสได้ศึกษาในระดับที่สูงขึ้น ท่านเปรียบดั่งแสงไฟส่องสว่างให้พวกเราครอบครัวต้นกล้าฯ ได้มีโอกาสในการศึกษา และได้เดินตามความฝันที่อยากเป็น ทำให้ต้นกล้าต้นเล็กๆ ต้นนี้ เจริญเติบโตขึ้น กลายเป็นต้นไม้ที่ยิ่งใหญ่ ผลิดอกออกผลอย่างสวยงาม หนูจะเป็นต้นกล้าต้นหนึ่งที่อดทน แข็งแรง แม้จะอ่อนแอบ้าง แต่ก็พร้อมที่จะลุกขึ้นสู้เพื่อวันพรุ่งนี้เสมอ จะกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ เป็นต้นกล้าที่เติบโตพร้อมที่จะให้ร่มเงาแก่ผู้อื่น เพื่อเป็นการตอบแทนพระคุณท่าน
“ช่วงนี้หนูยังไม่ค่อยจะแน่ใจในการตัดสินใจ คงต้องใช้เวลาศึกษางานในช่วงเรียนว่าตนเองชอบสิ่งที่เรียนหรือไม่และอยากจะทำสิ่งใด หนูคิดว่าไม่นานคงค้นพบเส้นทางเดินของตัวเอง หนูขอขอบคุณทุกความปรารถนาดีที่ทุนนี้มอบให้ หนูจะขอเก็บเกี่ยวสิ่งนี้ เป็นเครื่องมือให้กำลังใจในการเรียนและจะตั้งใจศึกษาเล่าเรียน”
“ชีวิตมหาวิทยาลัยมีทั้งสุขทั้งทุกข์รวมกัน แต่ที่ทุกข์อาจเป็นเพราะยังปรับตัวไม่ได้แต่เมื่อดิฉันมาอยู่ตรงจุดๆ นี้ ก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด สุดความสามารถที่มีอยู่ เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักเรียนทุนฯ รุ่นต่อๆ ไป และเพื่อพ่อแม่และผู้อุปการคุณ ผู้อุปถัมภ์ดิฉัน หากไม่มีความกรุณาจากท่าน ดิฉันก็อาจไม่ทราบว่าจะได้ศึกษาต่ออย่างที่ตั้งใจไว้หรือไม่ ถือเป็นความกรุณา ได้สานฝันตนเองต่อไป ได้ก้าวผ่านบันไดอีกขั้นอีกชั้น ดิฉันก็จะทำทุกวันให้ดีที่สุด จะทำให้โอกาสที่มีค่านี้
มีค่าขึ้นไปอีกมากมาย ให้คุ้มค่ากับโอกาสที่ท่านได้มอบให้”
“ท่านเป็นเหมือนแสงสว่างที่ส่องทางให้กับใครหลายๆ คน รวมทั้งหนูได้มีโอกาสในการศึกษา หนูขอสัญญาว่าหนูจะตั้งใจเรียน เป็นรุ่นพี่ที่ดีให้กับน้องๆ”
“ชีวิตในมหาวิทยาลัยช่วงแรกๆ ดิฉันยอมรับนะคะว่าอาจจะมีท้อบ้าง แต่ดิฉันก็จะไม่ยอมหยุดแค่นี้ ดิฉันจะทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด เพื่อความสำเร็จในวันข้างหน้า ส่วนการงานในอนาคต ดิฉันไม่ขอหวังตำแหน่งที่สูงๆ ดิฉันจะลองทำงานที่รู้สึกว่าตนเองทำได้ และจะค่อยๆ พัฒนาไปทีละขั้นค่ะ หากไม่มีความกรุณาจากท่าน ดิฉันก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาได้จนจบไหม ดิฉันจะทำหน้าที่ในวันนี้ให้ดีที่สุด สุดความสามารถ ให้คุ้มค่ากับโอกาสที่ท่านมอบให้ค่ะ”
“เรื่องการเรียนผมรู้สึกจะมีปัญหานิดหน่อยครับ แต่ผมจะไม่ท้อแท้ ไม่ยอมแพ้ ผมจะสู้ผมจะทำความฝันให้สำเร็จ ผมสัญญาครับ ที่ลืมไม่ได้ คือ ท่านทำให้ผมได้มีชีวิตที่ดี ได้มีที่เรียน”
“หนูรู้สึกดีใจและภูมิใจมากๆ ที่หนูมีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในโครงการต้นกล้าสงขลา-นครินทร์ และหนูต้องขอขอบพระคุณที่ท่านคอยช่วยเหลืออุปถัมภ์หนู”
"หนูขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่ทำให้เด็กชนบทคนหนึ่งได้มีโอกาสเรียนต่ออุดมศึกษาได้อย่างคนอื่นๆ เขา หนูรู้สึกดีใจมากค่ะ หากไม่มีทุนการศึกษาโครงการต้นกล้าสงขลานครินทร์หนูคงไม่มีโอกาสได้เรียนต่อระดับอุดมศึกษา และอาจทำให้หนูหมดโอกาสที่จะเรียนต่อและทำตามฝันของตนเอง ความฝันของหนู คือ อยากเป็นพยาบาล เพราะหนูรู้สึกว่า พยาบาลเป็นคนที่ใจดีมากสำหรับหนู น่ารัก ยิ้มเก่ง และที่สำคัญเป็นอาชีพที่สามารถเลี้ยงครอบครัวได้ และได้ช่วยเหลือผู้คน
อีกมากมาย ความมุ่งมั่นความฝันของหนู คือ จะตั้งใจเรียน หนูรู้สึกว่าการเรียนเปรียบเสมือนเสื้อชูชีพที่สามารถดึงตัวเองให้รอดพ้นจากการจมน้ำ สามารถที่จะช่วยเหลือตนเองได้"
"ปัจจุบันนี้ครอบครัวของหนูมีความสุขมากๆ ค่ะ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าทุกคนในครอบครัวดีใจที่หนูได้ศึกษาต่อ ทุกๆ คนในครอบครัวคอยเป็นกำลังใจ และคอยเป็นแรงผลักดันให้แก่หนูให้หนูมีความอดทน มีความพยายามในการเรียน หนูขอขอบพระคุณท่านเป็นอย่างสูงที่ได้ให้ความเมตตาแก่เด็กผู้หญิงในชนบทคนหนึ่ง ได้ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งโอกาสที่ยิ่งใหญ่นี้ทั้งชีวิตของหนูคงทดแทนได้ไม่หมด หนูขอเป็นต้นกล้าต้นหนึ่งที่อดทน แข็งแรง เข้มแข็งมีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ และเป็นต้นกล้าที่ให้ร่มเงาแก่ผู้อื่นในยามที่เดือดร้อน หนูจะเป็นคนดีของสังคมและประเทศชาติต่อไป"
"จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เป็นเวลากว่า 5 ปีแล้วที่ท่านได้ให้การอุปการะหนู ตั้งแต่ ม.ปลาย ตอนนี้หนูอยู่ปี 2 แล้ว ซึ่งเป็นช่วงครึ่งทางของชีวิตมหาวิทยาลัยฯ อีกแค่ 2 ปี หนูก็จะเรียนจบและคงมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สุดท้ายนี้ หนูก็อยากขอบพระคุณท่านอีกครั้งสำหรับโอกาสอันแสนยิ่งใหญ่ที่ท่านได้หยิบยื่นให้เด็กคนนี้ ผ่านมาครึ่งทางแล้ว เหลืออีกครึ่งที่หนูจะต้องตั้งใจและฝ่าฟันอุปสรรคทุกอย่างไปให้ได้ หนูสัญญานะคะว่าหนูจะเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน และทำหน้าที่ของหนูให้ดีที่สุด ให้สมกับโอกาสที่ท่านให้หนูมา"
"ความใฝ่ฝันของหนู มันเป็นเรื่องที่หนูชอบ และอยากจะทำให้ได้ หนูอยากที่จะเข้าศึกษาคณะนิติศาสตร์ของ มอ. หนูชอบการอ่านมากๆ หนูอ่านทุกๆ อย่าง หนังสือเรียน นอกตำรา หรือแม้แต่นิยาย ซึ่งหนูคิดเสมอว่า การอ่านจะช่วยให้เราเรียนรู้ และสิ่งหนึ่งคือหนูคิดเสมอว่า การทำในสิ่งที่ตนรักจนสุดความสามารถ แม้ว่าสุดท้ายมันจะไม่เป็นอย่างที่ใจหวัง แต่อย่างน้อยเราได้ทำแล้ว ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เนื่องจากทุนการศึกษาที่หนูได้รับจากท่านได้ช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวหนูเป็นอย่างมากในเรื่องการเรียนหนังสือ หนูซาบซึ้งพระคุณท่านเป็นอย่างมากที่ยื่นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับหนู
หนูจะรักษามันให้ดีที่สุด"
"ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 9 คนนี้ หนูเป็นคนหนึ่งในครอบครัวที่มีโอกาสทางด้านการศึกษามากกว่าคนอื่นๆ เพราะได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ ใจดีหลายๆ ท่าน ทุนการศึกษานี้มีคุณค่าและสำคัญยิ่งสำหรับชีวิตหนูมาก เปรียบได้ดั่งลมหายใจก็ว่าได้ เพราะถ้าไม่ได้รับทุนการศึกษานี้ หนูก็คงไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสืออย่างแน่นอน (มั่นใจ 100 %) สิ่งที่มิอาจลืมได้ คือ บุญคุณมหาศาลของผู้มี พระคุณที่มีกับหนู หนูจะตอบแทนด้วยการเป็นคนดีและเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาบ้านเมืองและสังคมต่อไป"
"ขอขอบคุณท่านมากๆ นะคะ ที่มีเมตตาได้เปลี่ยนชีวิตและอนาคตที่ดีแก่หนู ที่ทำให้ฝันของเด็กคนหนึ่งเป็นจริง หนูสัญญาว่าหนูจะตั้งใจเรียนและเรียนให้จบตามที่หวังไว้ และเป็นคนดีของครอบครัว ขอบพระคุณมากนะคะ "
"ความในใจที่บอก ท่านเป็นเหมือนแสงสว่างให้กับเด็กตัวน้อยๆ อย่างดิฉัน ท่านได้หยิบยื่นโอกาสให้กับดิฉัน หากเมื่อวันนั้นดิฉันไม่ได้รับทุนนี้ ดิฉันก็คงไม่ได้เดินมาไกลถึงขณะนี้ ขอขอบพระคุณที่ท่านเมตตา ให้ชีวิต และอนาคตที่ดี ดิฉันสัญญาว่าจะตั้งใจเรียนและเป็นคนดีของสังคม"
"ความใฝ่ฝันของหนู หนูอยากมีคณะดีๆ เรียน และเหมาะกับความสามารถกับตัวหนูได้ทำงานที่ดี สามารถเลี้ยงดูพ่อแม่และน้องได้ การทำตัวให้เป็นประโยชน์แก่สังคมและส่วนรวมเป็นลูกที่ดีทำให้พ่อแม่ภูมิใจในตัวหนู ไม่ว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร ณ จุดนี้ หนูขอสัญญาหนูจะทำตามความฝันของหนูให้ดีถึงดีที่สุด ฝันให้ไกล แล้วไปให้ถึง ท่านเปรียบเสมือนแสงสว่างที่คอยส่องทางให้แก่หนูเพื่อให้ไปถึงฝัน ถ้าไม่มีท่านให้การอุปถัมภ์ทุนหนู หนูก็นึกเส้นทางทางการศึกษาของหนูไม่ถูกเลยว่าจะออกมาอย่างไร ท่านได้ให้โอกาสแล้ว ทำให้หนูมองเห็นเส้นทางที่มีแสงสว่างส่องอยู่เพื่อไปถึงฝัน คำสัญญาเป็นเพียงแค่คำพูด ไฉนเลยจะเทียบเท่าการลงมือปฏิบัติจริงตามความฝันที่ตั้งไว้"
"หนูอยากขอบคุณท่านมากที่มีความกรุณามอบสิ่งดีๆ ให้หนู ทำให้ความฝันและอนาคตของหนูได้ดำเนินต่อไป หากไม่ได้ทุนนี้ หนูคงไม่ได้เรียนต่อเพราะครอบครัวคงหาเงินจำนวนนั้นมายากลำบาก หนูไม่ขอสัญญาแต่จะทำให้ดีที่สุด หนูจะขอให้ท่านมองดูต้นกล้าต้นนี้ สักวันมันจะกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ให้คนมาพิงอาศัย จะเติบโตไปอย่างมั่นคง และแข็งแรง ด้วยความพยายามความอดทน เพื่ออนาคต"
"หลังจากที่ผมได้รับทุนนี้แล้วคุณภาพชีวิตผมก็ค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ ผมกราบขอบพระคุณท่านอีกครั้งนะครับที่ได้กรุณายิ่งในการสละทุนทรัพย์ให้ผม เป็นปัจจัยให้ผมได้ศึกษาเล่าเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น และเป็นเส้นทางให้ผมก้าวไปสู่ฝั่งฝันได้ ผมขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะตั้งใจเรียน พากเพียรศึกษาให้ถึงวันที่มีปริญญากลับมาเชิดหน้าชูตาแก่วงศ์สกุล และผมขอบอกกับท่านว่า เมื่อผมเรียนจบประสบผลสำเร็จในชีวิตแล้ว ผมจะคืนให้แก่สังคมอย่างแน่นอนครับ เพราะสังคมสร้างให้ผมเป็นคนขึ้นมาครับ"